ที่นอน เกี่ยวข้องกับการปวดหลังอย่างไร
อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่พบมากในปัจจุบัน สาเหตุหนึ่งอาจเกิดจากการใช้ที่นอนที่ไม่เหมาะกับสรีระหรือที่นอนที่ไม่มีคุณภาพ ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับที่นอนสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้
สารบัญ
ที่นอน มีหน้าที่อะไร
คุณเคยคิดหรือไม่ว่าหน้าที่ของที่นอนคืออะไร หากดูเพียงผิวเผินหน้าที่ของที่นอนก็คือเอาไว้นอน แต่ในความเป็นจริง ที่นอนจำเป็นต้องให้ความรู้สึกนุ่มสบาย ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และช่วยรองรับสรีระให้อยู่ในแนวที่เหมาะสม ในขณะที่เรานอนหลับ
ให้ความรู้สึกนุ่มสบาย
ที่นอนที่ดีจะต้องให้ความรู้สึกนุ่มสบายเวลานอน ความรู้สึกนุ่มสบายคือความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ไม่มีแรงต้านหรือมีแรงต้านเพียงเล็กน้อย ไม่รู้สึกกดทับ
คนที่มีอาการปวดหลังหรือปวดไหล่ กล้ามเนื้อบริเวณที่ปวดจะเกิดการอักเสบ หากได้รับแรงกดทับหรือแรงต้านตลอดทั้งคืน จะทำให้ความอับเสบนั้นรุนแรงขึ้น เป็นที่มาของอาการปวดที่เพิ่มมากขึ้น
ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ที่นอนที่ดีจะต้องช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เราควรสังเกตุร่างกายในขณะนอน ว่ากล้ามเนื้อทั้งร่างกายโดยเฉพาะบริเวณจุดกดทับต่างๆ หรือจุดที่ปวด เช่นหัวไหล่ สะโพก และหลัง มีความรู้สึกผ่อนคลายหรือไม่
ถ้ามีความรู้สึกผ่อนคลาย กล้ามเนื้อก็จะได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีความรู้สึกตึงหรือเกร็งค้าง แสดงว่ากล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ ไม่สามารถคลายตัว เลือดไหลเวียนไม่ดี และอาจทำให้มีอาการปวดมากขึ้น
ช่วยรองรับสรีระให้อยู่ในแนวที่เหมาะสม
ที่นอนที่ดีจะต้องรองรับสรีระให้อยู่ในแนวที่เหมาะสม ในขณะที่นอนกระดูกสันหลังของเราควรจะอยู่ในแนวระนาบธรรมชาติ นั่นคือไม่มีการก้ม โค้ง ค่อม บิด หรือเอียง
ที่นอนที่นิ่มเกินไปจะทำให้เรารู้สึกยวบเวลานอน กระดูกสันหลังจะค่อมและเกิดแรงบีบอัด หมอนรองกระดูกจะถูกกดทับไว้ตลอดเวลา
การนอนในลักษณะนี้เป็นประจำตลอดทั้งคืน นอกจากจะทำให้เกิดอาการปวดหลังแล้ว ยังอาจทำให้เกิดอาการของหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท มีอาการปวด ชา ร้าว ไปตามแขนขาได้
ที่นอนที่แน่นเกินไปจะทำให้หลังส่วนล่างของเรามีช่องว่าง กล้ามเนื้อหลังจะเกร็งค้างโดยเฉพาะในท่านอนหงาย ทำให้เกิดอาการปวดหลังส่วนล่าง
ส่วนในท่านอนตะแคงจะเกิดการกดทับบริเวณหัวไหล่และสะโพก เป็นสาเหตุของการปวดบ่า ไหล่ รวมถึงการปวดหลังด้านซ้ายหรือปวดหลังด้านขวาด้วย
ปวดหลัง ปวดไหล่ เกิดจากที่นอนหรือไม่
ในระหว่างวันกล้ามเนื้อถูกใช้งานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง ยืน เดิน หรือทำงาน กล้ามเนื้อของเราจึงควรได้รับการพักผ่อนในเวลากลางคืน
หากเราใช้ที่นอนที่เหมาะสม กล้ามเนื้อของเราจะรู้สึกผ่อนคลายในขณะนอน อาการปวดเมื่อยลดน้อยลง อาการปวดหลัง หรือปวดไหล่จะเบาสบายขึ้นเมื่อตื่นนอน
แต่ถ้าเรารู้สึกปวดหลังมากขึ้นระหว่างนอนหรือเมื่อตื่นนอนแล้ว นั่นแสดงว่าที่นอนของคุณไม่ได้ทำหน้าที่ของมันในการรองรับสรีระ และช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และอาจถึงเวลาแล้วที่คุณจะต้องเปลี่ยนที่นอน
เทคนิคในการเลือกซื้อที่นอน
ในการเลือกซื้อที่นอน เราต้องพิจารณาองค์ประกอบหลัก 3 อย่าง ที่มีผลกับการนอน นั่นคือระดับความนุ่มแน่นที่เหมาะสม ความสามารถในการรองรับสรีระ และวัสดุที่ใช้ทำที่นอน
เลือกที่นอนที่มีความนุ่มแน่นที่เหมาะสม
ความนุ่มแน่นของที่นอนที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสรีระ ระดับความปวด และความชอบของแต่ละบุคคล ในการเลือกที่นอน ความสบายที่เรารู้สึกเวลานอนเกิดจากการที่กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายและไม่ถูกกดทับ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้ปวดให้น้อยลง
เลือกที่นอนที่สามารถรองรับสรีระได้ดี
ที่นอนที่รองรับสรีระได้ดีจะต้องแนบสนิทไปกับร่างกาย ไม่มีแรงต้านจนเกินไป และไม่ทำให้แนวกระดูกสันหลังโค้ง ค่อม บิด หรือเอียง ทั้งในท่านอนหงายและนอนตะแคง อาการปวดหลังหรือปวดไหล่มักเกิดจากที่นอนที่ไม่สามารถรองรับสรีระบริเวณหลัง ไหล่ และสะโพกได้ดี
คุณสมบัติของวัสดุในการทำที่นอน
ที่นอนส่วนใหญ่ประกอบขึ้นจากวัสดุหลายชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและหน้าที่แตกต่างกัน แม้แต่วัสดุชนิดเดียวกันก็ยังมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ที่นอนยางพารา อาจมีทั้งที่นอนที่นุ่มสบายรองรับสรีระได้ดี หรือที่นอนที่แข็งหรือแน่นจนทำให้เกิดอาการปวดหลัง
การระบายอากาศ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญในการเลือกที่นอน ในขณะที่เรานอนร่างกายจะลดอุณหภูมิลงด้วยการขับเหงื่อและความร้อนออกทางผิวหนัง วัสดุที่ใช้ทำที่นอนจะต้องมีโครงสร้างที่สามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อให้เรารู้สึกสบายตัวไม่อึดอัด และสามารถระบายความชื้นที่ถูกขับออกมา เพื่อไม่ให้เกิดการสะสมของไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรียต่างๆ
ยางพาราเป็นวัสดุที่มีโครงสร้างเซลล์แบบเปิด จึงสามารถระบายอากาศได้ดี เมื่อเทียบกับวัสดุบางประเภทเช่น เมมโมรี่โฟม หรือ ฟองน้ำ
อายุการใช้งาน ของที่นอนไม่ได้ขึ้นอยู่กับการรับประกัน แต่ขึ้นอยู่กับประเภทและคุณภาพของวัสดุที่นำมาใช้ในการทำที่นอน วัสดุที่มาจากธรรมชาติมักจะมีอายุการใช้งานสั้นกว่าวัสดุที่มาจากสารเคมี และวัสดุที่มีความนุ่มมักจะมีอายุการใช้กว่าวัสดุที่มีความแน่นหรือแข็ง
กรดไหลย้อน ความดันต่ำ ต้องใช้ที่นอนแบบไหน
สำหรับคนที่เป็นกรดไหลย้อนหรือความดันต่ำนั้น ไม่ควรนอนโดยให้ศรีษะอยู่ต่ำเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการแสบร้อน พะอืดพะอม หรือเวียนหัวได้ ที่นอนที่เหมาะสมควรเป็นที่นอนที่ปรับระดับได้หรือที่นอนไฟฟ้า ซึ่งสามารถปรับส่วนหลังหรือศรีษะให้ยกสูงขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยให้นอนหลับได้สบายขึ้น
สรุป
ที่นอนที่ดีจะช่วยลดการปวดหลัง และช่วยให้คุณสามารถนอนหลับได้ดีขึ้น ในช่วงชีวิตของคนเรามีโอกาสเลือกซื้อที่นอนเพียงไม่กี่ครั้ง การลงทุนในที่นอนที่ดีจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่เราต้องให้สำคัญ เมื่อเราพบกับที่นอนที่เหมาะกับตัวเอง เราจะมีชีวิตคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะคุณภาพการนอนส่งผลโดยตรงกับคุณภาพของชีวิต
ที่นอนจาก Amaxing ช่วยแก้ปัญหาการนอนให้คุณได้อย่างไร
ที่นอนยางพาราของอเมซิ่ง ผลิตจากน้ำยางพาราเกรดพรีเมี่ยมที่ผ่านการคัดสรรอย่างดี ขั้นตอนการผลิตออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มความเหนียวนุ่มและความทนทานให้กับเนื้อยาง รูปแบบของที่นอนได้รับการออกแบบโดยนักกายภาพเพื่อให้เหมาะสมกับสรีระของคนไทย
ที่นอนของอเมซิ่งสามารถรองรับสรีระได้ดี ให้ความนุ่มสบาย ลดแรงต้านและแรงกดทับอันเป็นสาเหตุหลักของการปวดหลัง และปวดไหล่ ตัวที่นอนสามารถระบายอากาศได้ดี ช่วยลดความอับชื้นอันเป็นสาเหตุหลักของไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย
แต่ละส่วนของที่นอนสามารถปรับความนุ่มแน่นได้ ทำให้สามารถรองรับสรีระได้อย่างแท้จริง นักกายภาพที่เชี่ยวชาญด้านการนอน จะให้คำแนะนำและตรวจวัดสรีระในการนอน เพื่อให้มั่นใจว่าที่นอนสามารถรองรับสรีระและแนวกระดูกสันหลังได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้กล้ามเนื้อได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่
ตัวที่นอนสามารถปรับแต่งได้ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา เพื่อให้รองรับสรีระได้สำหรับแต่ละบุคคล และเลือกความนุ่มสบายได้ในแบบที่เราต้องการ
ที่โชว์รูมของอเมซิ่ง คุณสามารถทดลองนอนได้อย่างเต็มที่ในห้องทดลองส่วนตัว นักกายภาพจะตรวจวัดสรีระการนอนและให้คำแนะนำการนอนที่เหมาะสม
เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้รับที่นอนที่เหมาะสมกับสรีระ เรารับประกันความพึงพอใจในสินค้าเป็นเวลา 30 วัน หลังจากที่ได้รับสินค้า นักกายภาพของเราจะให้คำปรึกษาและช่วยปรับที่นอนให้กับคุณจนกว่าจะพอดีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ